บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จัดงานวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 85 ปี

          นายนพรัตน์ การุณยะวนิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารการเดินรถ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด กล่าวว่า ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาบริษัทฯ ครบรอบ 85 ปี บขส. ได้มอบเงิน จำนวน 100,000 บาท จากโครงการ 1 สตางค์ 1 ความดี ให้แก่มูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อนำเงินไปจัดทำขาเทียมให้คนพิการที่ยากไร้ สำหรับโครงการ 1 สตางค์ 1 ความดี มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการรถโดยสาร ได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม โดยการหักเงินจากยอดจำหน่ายตั๋ว 1 สตางค์ ต่อตั๋ว 1 ใบ และนำเงินไปมอบให้องค์กรสาธารณะกุศล เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป ซึ่ง บขส.ดำเนินโครงการ 1 สตางค์ 1 ความดี  มาเป็นปีที่ 7 แล้ว

           สำหรับผลการดำเนินงานในรอบปี 2557 ที่ผ่านมา บขส. ได้พัฒนาบริการในด้านต่าง ๆ เพื่อให้บริการและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอย่างครบวงจร อาทิ การพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงและตรวจสภาพรถ ให้มีรูปแบบการบริหารงานในเชิงธุรกิจ โดยเปิดให้บริการตรวจสภาพรถโดยสาร รับชำระภาษี และเปิดให้บริการตั้งศูนย์ถ่วงล้อ ณ สำนักซ่อมบำรุงและตรวจสภาพรถ (รังสิต) , การให้บริการรับ – ส่งพัสดุภัณฑ์ (ส่งของทั่วไทย รับได้ในวันเดียว : 1 Day 1 Night) ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีผู้มาใช้บริการรับ-ส่งพัสดุภัณฑ์กับ บขส. เป็นจำนวนมาก ซึ่งเดิมมีจุดให้บริการ 4 แห่ง คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (ถนนบรมราชชนนี) สถานีเดินรถรังสิต (บริเวณขาออก) ศูนย์กระจายสินค้าขาเข้า สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) และในปี 2557 ได้เพิ่มจุดบริการรับ-ส่งพัสดุภัณฑ์ ที่สถานีเดินรถเชียงราย และสถานีเดินรถหาดใหญ่ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจดังกล่าว นอกจากนี้ บขส. ได้ก่อสร้างสถานีเดินรถเชียงของขึ้น เพื่อยกระดับการบริการให้รองรับจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต จากการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 ทั้งนี้สถานีเดินรถเชียงของแห่งใหม่ สามารถรองรับรถโดยสารประจำทางที่เข้ามาใช้บริการสถานทั้งรถบริษัทฯ และรถร่วม ได้มากกว่า 46 เที่ยวต่อวัน ได้แก่ เส้นทางกรุงเทพฯ – เชียงของ เดินรถไป-กลับ วันละ 40 เที่ยว ,เส้นทางเชียงใหม่ – เชียงของ –หลวงพระบาง เดินรถไป-กลับ วันละ 2 เที่ยว และเส้นทางเชียงราย – เชียงของ – บ่อแก้ว เดินรถไปกลับวันละ 4 เที่ยว  

          ด้านความปลอดภัย บขส. ได้รับรางวัลบริการภาครัฐแห่งชาติ ประจำปี 2557 ประเภทรางวัลการพัฒนาการบริการที่เป็นเลิศระดับดี ในด้านการพัฒนาระบบควบคุมและตรวจสอบความปลอดภัยของรถโดยสาร (GPS) จาก สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) สืบเนื่องมาจาก บขส. มีนโยบายพัฒนาคุณภาพการบริการ ให้ได้มาตรฐาน โดยได้ติดตั้งระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (Global Positioning System : GPS) มาใช้กับรถโดยสารบริษัทฯ เพื่อใช้ตรวจจับความเร็ว พฤติกรรมการการขับขี่ ทำให้พนักงานขับรถโดยสารมีการเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่มากขึ้น ส่งผลให้สถิติในการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนนลดลง และผู้ใช้บริการมั่นใจในความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

          อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากสายการบินต้นทุนต่ำ ที่มีเส้นทางบินทับซ้อนกับเส้นทางการเดินรถของบริษัทฯ เนื่องจากอัตราค่าโดยสารที่ใกล้เคียงกัน แต่ประหยัดเวลา ทำให้ปริมาณผู้โดยสารลดลงในเส้นทางที่ทับซ้อน ดังนั้นเพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไป จึงได้มีการพัฒนาด้านบริการเพิ่มมากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร เช่น จัดรถจำหน่ายตั๋วเคลื่อนที่ บริการซื้อตั๋วออนไลน์ ผ่านไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ไปรษณีย์ไทย และระบบ Call Center 1490

          นายนพรัตน์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) ว่า บขส. ต้องออกจากพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ภายในปี 2560 เนื่องจากปัจจุบัน บขส. ตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าสถานีกลางบางซื่อ ทั้งนี้ บขส. ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กรณีสถานีขนส่งผู้โดยสารย้ายไปพื้นที่แห่งใหม่ รวมถึงศึกษาพื้นที่ที่มีความเหมาะสม ขณะนี้อยู่ระหว่างการเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจเสนอที่ดินเพื่อพิจารณา โดยกำหนดว่าจะต้องมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 80 ไร่ อยู่ในช่วงตั้งแต่รังสิตโซนเหนือ แต่ไม่เกินมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทั้ง 2 ฝั่ง ของถนนพหลโยธิน นอกจากนี้ บขส. อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับโครงการจัดตั้งสถานีขนส่งผู้โดยสารย่อย พื้นที่ขนาด 16 ไร่ 43 ตารางวา ในพื้นที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) เดิม เพื่อรองรับรถโดยสารไม่ประจำทาง (ทะเบียน 30) จำนวน 40 คัน และรถตู้ที่วิ่งให้บริการจากกรุงเทพมหานคร ระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร ประมาณ 3,000 คัน